1. เบอร์ลิน (Berlin)
เบอร์ลินเป็นเมืองหลวงของประเทศเยอรมนี ซึ่งอาจจะทำให้หลายๆ คนคิดใช่ไหมคะว่าเมืองนี้ค่าครองชีพน่าจะแพงที่สุด แต่เปล่าเลยค่ะ เบอร์ลินเป็นเมืองที่ค่าครองชีพถูก และที่พักก็หาง่ายกว่าเมืองอื่นๆ ด้วยนะคะ เพราะว่าเป็นเมืองใหญ่ สำหรับนักเรียนที่สนใจอยากจะเรียนภาษาที่เยอรมนี เบอร์ลินก็ถือว่าเป็น 1 ในเมืองที่ตอบโจทย์ ถึงแม้ว่าวีซ่านักเรียนภาษาจะไม่สามารถทำงานได้ แต่การที่ค่าครองชีพในเบอร์ลินถูก จึงสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายลงไปได้เยอะเลยทีเดียว และเมืองมีผู้คนหลากหลาย ก็ยังมีคนที่สื่อสารเป็นภาษาอังกฤษ จึงทำให้นักเรียนที่ยังไม่คล่องในเรื่องของภาษาเยอรมัน จะช่วยให้เรายังพอได้สื่อสารภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันได้ ไม่ลำบากจนเกินไปค่ะ
ส่วนนักเรียนที่อยากเรียนต่อในระดับปริญญานั้น ก็เช่นกันเลยค่ะ เบอร์ลินค่าครองชีพถูก เมืองใหญ่หาที่พักได้ง่ายกว่า หรือหากสนใจทำงานพาร์ทไทม์เพิ่ม ก็หางานได้ง่ายกว่าเพราะเป็นเมืองใหญ่ มีบริษัทเยอะ เราสามารถทำงานพาร์ทไทม์ได้เยอะ หรือหากสนใจเรียนต่อทางด้านสายอาร์ต ดีไซน์ หรือไอที ก็อยากจะแนะนำให้มาเรียนที่เมืองเบอร์ลินค่ะ เพราะฝั่งเบอร์ลินจะมีพิพิธภัณฑ์ และมิวเซียมเยอะ เป็นเมืองแห่งศิลปะ ส่วนด้านไอที ก็เพราะว่าเมืองเบอร์ลินจะมีบริษัททางด้านไอทีหรือสตาร์จอัพเปิดอยู่เยอะค่ะ ถือว่าอันดับต้นๆ เราจบมาก็สามารถทำงานได้เลย ไม่ต้องย้ายเมือง
2. ฮัมบวร์ค (Hamburg)
ฮัมบวร์คเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของเยอรมนี แต่ถ้าเทียบกับเบอร์ลินค่าครองชีพก็อาจจะสูงขึ้นกว่า ฮัมบวร์คเป็นเมืองที่สะอาด มีแฟชั่น ไฮโซ ทำธุรกิจข้ามประเทศ และคนในเมืองก็พอสามารถพูดภาษาอังกฤษกันได้ พอๆ กับมิวนิคเลยค่ะ สำหรับนักเรียนที่ยังพูดภาษาเยอรมันได้ยังไม่คล่อง เมืองนี้ก็ตอบโจทย์ค่ะ
สำหรับนักเรียนปริญญา แนะนำเรียนเกี่ยวกับด้านโลจิสติกส์ การขนส่งค่ะ จะเป็นอะไรที่ตอบโจทย์ เพราะถ้าพูดง่ายๆแบบให้เห็นภาพก็คือ ฮัมบวร์คจะอยู่ติดกับแม่น้ำ มีเรือเทียบท่า มีตู้คอนเทนเนอร์ เป็นท่าเรือใหญ่ สำหรับเรือที่จะเข้ามาทั้งหมดค่ะ หรืออยากเรียนสาขา MBA ก็มีมหาวิทยาลัย ที่เราอยากจะเรียนก็ได้เหมือนกันค่ะ ฮัมบวร์คก็ถือว่าเป็นอีกเมืองหนึ่งที่น่าสนใจเลยนะ
** หรือเบรเมนก็น่าเรียนเกี่ยวกับพวกโลจิสติกส์เช่นกันนะคะ พลังงานการทดแทนไฟฟ้า กังหันลมที่ผลิตไฟฟ้า เพราะเมืองนี้เป็นเมืองที่ลมแรงมาก แต่ข้อเสียเมืองเบรเมนสำหรับบางคน อาจจะดูเป็นเมืองที่เหงาๆหน่อยค่ะ คือ สภาพอากาศที่มีฝนตกเยอะ อึมครึม แต่จริงๆ ก็ดูมีความโรแมนติก ด้วยบรรยากาศของเมืองค่ะ
3. มิวนิค (Munich)
มิวนิคถือว่าเป็นเมืองที่คนที่นี่จะพูดภาษาอังกฤษกันเยอะ จากประสบการณ์ถือว่าคนที่มิวนิคจะมีการสื่อสารภาษาอังกฤษมากกว่าเบอร์ลินด้วยค่ะ มิวนิคเป็นเมืองใหญ่ คนในเมืองสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษกันได้บ้าง เป็นเมืองอินเตอร์ หรูหรา ติดสวิต ท่องเที่ยวง่าย เดินทางสะดวก หากนักเรียนสนใจมาเรียนภาษาที่มิวนิค การที่ผู้คนสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษได้ ก็ช่วยให้เราใช้ชีวิตประจำวันง่ายขึ้น หากเรายังไม่คล่องภาษาเยอรมัน แต่ก็จะมีในเรื่องค่าครองชีพที่สูงมาก ถ้าเทียบกับเมืองเบอร์ลิน ค่าครองชีพสูงทุกอย่างเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นค่ากินอยู่ ค่าที่พัก ด้วยความที่เมืองมิวนิคจะเป็นเมืองที่อินเตอร์มากๆ แต่อย่างที่บอกไปค่ะ เมืองมิวนิคจะมีคนพูดภาษาอังกฤษได้ ก็อาจจะช่วยสำหรับนักเรียนที่ยังพูดภาษาเยอรมันได้ไม่คล่อง พูดเยอะกว่าเมืองเบอร์ลิน
ส่วนนักเรียนที่สนใจเรียนต่อระดับปริญญา สาย Engineering ต่างๆ จะดังอยู่แล้วค่ะ เกี่ยวกับพวกผลิตรถยนต์ หรืออยากเรียนเกี่ยวกับ Branding หรือพวกด้าน Fashion มิวนิคก็ถือเป็นเมืองที่ตอบโจทย์เลยค่ะ ก็จะมีมหาวิทยาลัยทั้งรัฐและเอกชนเลยนะคะ ที่นักเรียนสามารถจะเลือกไปเรียนได้ และสำหรับนักเรียนปริญญาที่อยากทำงานพาร์ทไทม์ สามารถทำงานได้เยอะ อยากที่บอกไปค่ะ เมืองมิวนิคเป็นเมืองใหญ่ และมีบริษัทต่างๆ เยอะมากค่ะ อย่างเช่น BMW หรือ Porsche AG เป็นต้น
4. โคโลญ (Cologne)
โคโลญ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำไรน์ เป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศเยอรมนี รองจากเบอร์ลิน ฮัมบวร์ค และมิวนิค โคโลญเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของเยอรมนี เมืองไม่ค่อยวุ่นวาย รถไม่เยอะ การเดินทางสะดวก ด้วยรถไฟหรือขนส่งสาธารณะ
มหาวิทยาลัยโคโลญเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในทวีปยุโรป และเป็นมหาวิทยาลัยที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศค่ะ แนะนำเรียนสาย Sport Management หรือ Psychology จะมีมหาวิทยาลัยและโรงเรียนภาษาอยู่ใกล้ๆ กัน เป็นโซนๆ ค่ะ การเดินทางสะดวก แต่ถ้าในส่วนของที่พักอาจจะราคาสูงและค่อนข้างหายาก ส่วนมากคนจะอยู่รอบๆ นอกกันค่ะ จะมีเมืองเล็กๆ สามารถนั่งรถไฟไปได้
5. ไฮเดลเบิร์ก (Heidelberg)
ไฮเดลเบิร์กเป็นเมืองท่องเที่ยว เป็นเมืองที่สวยมาก มีแม่น้ำ ภูเขา ไฮเดลเบิร์กเป็นเมืองที่ไม่ได้ใหญ่มากนะคะ ค่าครองชีพก็เลยจะอยู่กลางๆ หากนักเรียนสนใจเรียนภาษาที่ไฮเดลเบิร์ก โรงเรียนภาษาอาจจะน้อยหน่อยค่ะ มีให้เลือกไม่เยอะ เพราะเมืองเล็ก แต่เล็กในเชิงที่ว่าการเดินทางง่าย สะดวก เราสามารถเดิน หรือปั่นจักรยานไปไหนก็ได้ เมืองไม่ได้ใหญ่ สามารถเดินไปใจกลางเมืองได้ ส่วนรถไฟก็เดินทางได้ไม่ได้ไกลมาก เป็นเมืองที่สบายๆ หากนักเรียนตั้งใจมาเรียนภาษา ไฮเดลเบิร์กก็ถือเป็นอีกหนึ่งเมืองที่ตอบโจทย์ในหลายๆ ด้านเลย น่าไปเรียนเหมือนกันค่ะ
ส่วนนักเรียนที่สนใจเรียนต่อปริญญา ไฮเดลเบิร์กมีมหาวิทยาลัยเก่าแก่ และใหญ่ เป็นเมืองมหาวิทยาลัย มีเด็กไทยไปเรียนกันเยอะ แต่อาจจะติดเรื่องการทำงานพาร์ทไทม์ เพราะเมืองเล็ก ถ้านักเรียนสนใจทำงานพาร์ทไทม์ อาจจะต้องนั่งรถไฟไปทำงานที่แฟรงก์เฟิร์ตแทนค่ะ
เรียนต่อเยอรมนีกับ https://keeneducation.co/
📥 ทักแชท inbox มาคุยกับเราได้เลย
📲 แอดไลน์มาที่ @keeneducation
📞 โทรหาเราที่ 082 654 5362
📧 หรือส่งอีเมล์มาที่ hello@keeneducation.co