1. ประเทศเยอรมนี ติด 1 ใน 10 ประเทศน่าอยู่มากที่สุดในโลก
เยอรมนีเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในยุโรป ถือเป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจ และยังมีกฎหมายที่เข้มงวดมากๆ ทุกเมืองในเยอรมนีจะมีระบบขนส่งสาธารณะที่ทันสมัย สะดวก รวดเร็ว ด้วยรสบัส รถราง และรถไฟ ที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ชาวเยอรมนีจึงมักเลือกใช้ระบบขนส่งสาธารณะกันเป็นส่วนใหญ่ และประเทศเยอรมนียังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก เป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน และมั่งคั่งมาก หากมาเรียนที่ประเทศเยอรมนี จะมีโอกาสได้เดินทางไปยังเมืองมรดกโลกที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม มีเมืองท่องเที่ยวที่มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามหลายแห่งอีกด้วย เช่น มิวนิค แฟรงก์เฟิร์ต ไลป์ซิก โคโลญจ์ เบอร์ลิน ฮัมบวร์ก เป็นต้นสภาพ
2. ภูมิอากาศประเทศเยอรมนีเป็นอย่างไร มีทั้งหมดกี่ฤดู
สภาพภูมิอากาศของเยอรมนีแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ โดยอุณหภูมิเฉลี่ยไปทางฤดูหนาว อากาศเย็น มีทั้งหมด 4 ฤดู ดังนี้
- ฤดูใบไม้ผลิ (เดือนมีนาคม – เดือนพฤษภาคม) อากาศอบอุ่น ดอกไม้เริ่มผลิบาน
- ฤดูร้อน (เดือนมิถุนายน – เดือนสิงหาคม) อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 18 – 20 องศา
- ฤดูใบไม้ร่วง (เดือนกันยายน – เดือนพฤศจิกายน) อากาศเย็น มีฝน ใบไม้เปลี่ยนสี
- ฤดูหนาว (เดือนธันวาคม – เดือนกุมภาพันธ์) อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 5 ถึง -5 องศา
3. เรียนต่อเยอรมนี ได้สิทธิท่องเที่ยวทั่วยุโรป ไม่ต้องขอวีซ่าเพิ่ม
สำหรับผู้ที่ถือวีซ่าไปเรียนที่ประเทศเยอรมนี คุณสามารถเดินทางไปทั้งหมด 26 ประเทศในกลุ่มเชงเก้นได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า ได้แก่ สวิตเซอร์แลนด์, ไอซ์แลนด์, อิตาลี, ออสเตรีย, เบลเยียม, เดนมาร์ก, สาธารณรัฐเช็ก, เอสโตเนีย, ฟินแลนด์, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, กรีซ, ฮังการี, ลัตเวีย, ลิทัวเนีย, ลิกเตนสไตน์, ลักเซมเบิร์ก, มอลตา, เนเธอร์แลนด์, นอร์เวย์, โปแลนด์, โปรตุเกส, สาธารณรัฐสโลวัก, สโลวีเนีย, สวีเดน และสเปน
4. สิ่งที่สำคัญในการขอวีซ่าเพื่อการศึกษาเยอรมัน (วีซ่านักเรียน)
การขอวีซ่าเพื่อการศึกษาเยอรมัน (วีซ่านักเรียน) คือสิ่งที่สำคัญอย่างมากสำหรับการขอวีซ่านักเรียนเยอรมัน ดังนั้น ผู้สนับสนุนทางการเงินของผู้เรียน จะต้องมีบัญชีเงินฝาก Blocked Account สำหรับยื่นหลักฐานทางการเงินในการขอวีซ่า ต้องพิจารณาว่าก่อนพร้อมหรือไม่? สำหรับการที่นำเงินจำนวนหนึ่งไปฝากไว้ที่บัญชี Blocked Account ที่ประเทศเยอรมนี เพื่อเป็นหลักฐานทางการเงินสำหรับขอวีซ่านักเรียน ซึ่งวิธีการจะแตกต่างจากการขอวีซ่าประเทศอื่นๆ ในโซนยุโรป ที่สามารถใช้หลักฐานทางการเงินของบัญชีธนาคารในประเทศไทยในการขอวีซ่าได้ เงินที่ถูกนำไปฝากไว้ใน Blocked Account คือเงินที่สถานทูตกำหนดให้นำเงินที่ต้องไปใช้ในเยอรมมีล่วงหน้า 1 ปี เพื่อเตรียมไว้ให้สำหรับค่าใช้จ่าย ค่าครองชีพของผู้เรียนตลอดระยะเวลาที่เรียน และอยู่อาศัย
5. อยากเรียนฟรี ต้องมีคุณสมบัติอย่างไรตามเกณฑ์ที่กำหนด
การจะเข้าศึกษาในระดับปริญญาตรีมีข้อกำหนดเบื้องต้น และเงื่อนไขที่ต้องทราบ ดังนี้
นักเรียนต่างชาติ (รวมถึงไทย) ที่จบหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลาย (ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6) ต้องการไปเรียนต่อระดับปริญญาตรีที่ประเทศเยอรมนี จะไม่สามารถเข้าเรียนได้ทันที เนื่องจากวุฒิการศึกษาในประเทศไทยไม่เทียบเท่ากับประกาศนียบัตรมัธยมปลายของเยอรมัน จะต้องเรียนหลักสูตรเตรียมความพร้อม Studienkolleg ก่อน เพื่อเรียนปรับพื้นฐาน จากนั้น จะต้องเข้าสอบ Feststellungsprüfung (FSP) เป็นการสอบเพื่อวัดระดับคุณสมบัติสำหรับการเรียนต่อในระดับปริญญาตรี ซึ่งใบประกาศ FSP สามารถเข้าเรียนได้ทุกมหาวิทยาลัยในเยอรมันนี
สำหรับผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือ ปวช. ปวส. จะต้องเข้าเรียนหลักสูตรเตรียมความพร้อม Studienkolleg ก่อน ซึ่งเป็นหลักสูตรปรับพื้นฐาน ที่เตรียมความพร้อมสำหรับนักศึกษาต่างชาติทั้งเตรียมความพร้อมด้านภาษา และวิชาการเฉพาะด้าน ตามสาขาวิชาที่สนใจ ก่อนที่จะสอบ Feststellungsprüfung (FSP) หรือเข้าใจง่ายๆ คือ หลักสูตร Studienkolleg จะคล้ายกับหลักสูตร Foundation Program ที่ประเทศอังกฤษ โดยหลักสูตร Studienkolleg ก็เป็นหลักสูตรเตรียมความพร้อมในการเข้าเรียนต่อปริญญาตรี
นักศึกษาเรียนจบปริญญาตรีปีที่ 2 ในมหาวิทยาลัยไทย ต้องการย้ายมาเรียนปริญญาตรีที่เยอรมัน สามารถสมัครเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยเยอรมันในสาขาเดียวกันได้เลย (Direct Entry) แต่จะไม่มีการเทียบโอนหน่วยกิตวิชาที่เรียนไปแล้ว และจะต้องเริ่มต้นหลักสูตรใหม่ บางกรณีนักศึกษาต้องผ่านการสอบประเมินความรู้จากมาตรฐานกลางที่เรียกว่า Test As (Test for Academic Studies) ก่อน เป็นการสอบประเมินความรู้และความเหมาะสมของนักศึกษาต่างชาติ เพื่อเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยเยอรมนี นักศึกษาสามารถนำผลการสอบไปสมัครเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรีในหลักสูตรภาษาเยอรมันหรือภาษาอังกฤษก็ได้ นักศึกษาส่วนใหญ่ที่ผ่านการสอบ Test As จะมีโอกาสได้รับการตอบรับเข้าศึกษามากขึ้น
สำหรับนักเรียนที่สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายในต่างประเทศที่มีคุณวุฒิเทียบเท่าคุณวุฒิ German Abatur สามารถสมัครเข้าเรียนโดยตรงได้ แต่ต้องมีทักษะภาษาเยอรมันระดับ C1 โดยมีผล ใช้ TestDaF หรือ telc C1 Hochschule เพื่อสมัครเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยของรัฐในประเทศเยอรมนีโดยตรง สำหรับนักเรียนที่มีคุณวุฒิ GED จะไม่มีสิทธิ์เข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยในเยอรมนี รวมทั้งไม่สามารถเรียนหลักสูตร Studienkolleg นักศึกษาต้องสำเร็จการศึกษา ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน (มัธยมศึกษาปีที่ 6) เพื่อให้สามารถเรียนหลักสูตร Studienkolleg หากนักศึกษามีวุฒิการศึกษา GED ก็อาจต้องดูประเทศอื่นๆ เช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ นิวซีแลนด์ แคนาดา ออสเตรเลีย เป็นต้น
6. มีค่าใช้จ่ายอะไรอีกบ้างที่ต้องเตรียม นอกจากค่าเทอม(ฟรี)
ประเทศเยอรมนี ไม่ต้องจ่ายค่าเทอมตลอดระยะเวลาการศึกษาในระดับอุดมศึกษา ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษาชาวเยอรมัน หรือนักศึกษาชาวต่างชาติ ที่เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยของรัฐบาลในประเทศเยอรมนี แต่มหาวิทยาลัยจะเรียกเก็บค่าบำรุงการศึกษา ประมาณ 200 – 300 ยูโร เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับสวัสดิการนักศึกษา ทั้งภายใน และภายนอกโรงเรียน เช่น การใช้บริการห้องสมุด การใช้บริการโดยสารสาธารณะ ตลอดทั้งเทอม
แม้จะไม่มีค่าธรรมเนียมการศึกษา แต่ก็มีค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าเดินทาง และอื่นๆ ในชีวิตประจำวันอีก โดยหากกำลังวางแผนตัดสินใจมาเรียนต่อที่ประเทศเยอรมนี ค่าใช้จ่ายที่กล่าวไปเราต้องเตรียมเอง และในแต่ละเมืองของประเทศเยอรมนี ก็จะมีค่าใช้จ่ายแตกต่างกันออกไป
7. ความรู้และทักษะภาษาเยอรมันคือสิ่งที่สำคัญ
ภาษาเยอรมันเป็นภาษาพูดอันดับหนึ่งในยุโรป และเป็นภาษาราชการของหลายประเทศในยุโรป โดยทั่วไปภาษาที่ใช้ในการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยคือ ภาษาเยอรมัน ดังนั้นหากคุณต้องการเรียนที่ประเทศเยอรมนี สิ่งแรกที่ต้องเตรียมคือ ภาษาเยอรมัน นอกจากนี้ การใช้ชีวิตในเยอรมนีจะง่ายขึ้น หากพูดภาษาเยอรมันได้ โดยเฉพาะการตัดสินใจที่จะทำงานในประเทศเยอรมนีต่อไปหลังจบการศึกษา การได้ภาษาเยอรมันจะทำให้คุณได้เปรียบในตลาดงานมากขึ้นด้วย
8. ควรจะเรียนเตรียมภาษาเยอรมันที่ไหนดี ?
นอกจากการเรียนภาษาเยอรมันในห้องเรียนแล้ว จำเป็นต้องฝึกฝนภาษาเยอรมันอย่างสม่ำเสมอด้วย โดยเฉพาะถ้าใช้โดยตรงกับคนเยอรมันจะพัฒนาได้เร็วกว่า ถ้าเทียบกับอังกฤษ ภาษาเยอรมันไม่ได้ซับซ้อนกว่าภาษาอังกฤษ แต่อาจจะมีข้อกำหนดเพิ่มเติมในบางจุดบ้าง เช่น เพศมีได้ถึง 3 เพศ และการผันกริยาทั้งหมด หากจำเงื่อนไขการแต่งประโยค หรือแกรมม่าได้ จะไม่ยากเลย ถ้ามาเรียนที่เมืองไทย อาจจะต้องศึกษาด้วยตนเองเป็นพิเศษ แต่ถ้าไปเรียนที่เยอรมันก็อาจจะพัฒนาได้เร็วขึ้น
สำหรับนักเรียนที่สนใจศึกษาต่อในประเทศเยอรมนี ผู้เรียนจะต้องมีทักษะภาษาเยอรมันด้วย เช่น A1, B2, C1 อาจต้องเริ่มเรียนหลักสูตรภาษาเยอรมันก่อน สามารถเลือกเรียนที่ประเทศไทย หรือประเทศเยอรมนีได้ ขึ้นอยู่กับความสะดวกของผู้เรียน แต่ก็จะมีความแตกต่างกัน ระหว่างการเรียนภาษาเยอรมันในประเทศไทย และในประเทศเยอรมนี เพราะการที่เราเรียนภาษาที่ประเทศเยอรมนี จะทำให้เราได้เรียนกับเจ้าของภาษาจริงๆ และได้ฝึกพูดคุยทุกวัน ในการใช้ชีวิตประจำวันที่ประเทศเยอรมนี
9. สิทธิ โอกาสในการทำงาน และเงินเดือน หลังจากจบการศึกษา
หลังจากนักเรียนจบการศึกษา จะได้สิทธิอยู่ต่อเพื่อทำงานได้อีก 18 เดือน พร้อมโอกาสในการทำงานที่หลากหลาย และรับเงินเดือนในอัตราเดียวกันกับคนในยุโรป การเรียนเยอรมัน นอกจากได้รับคุณภาพการศึกษาระดับโลก และได้สิทธิ์ในการเรียนฟรีแล้ว ผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีขึ้นไป จะสามารถอยู่ในเยอรมนีเพื่อหางานทำได้หลังจบการศึกษาด้วย สามารถยื่นขออยู่ต่อได้สูงสุด 18 เดือน ซึ่งในระยะเวลา 18 เดือนนี้ เปิดโอกาสให้ผู้ที่จบการศึกษา สามารถหางานทำที่ตรงสาย และหากได้งานทำที่ตรงสายภายในระยะเวลา 18 เดือนแล้ว ก็จะสามารถขอวีซ่าทำงาน หรือ EU-Blue Card ซึ่งเป็นใบอนุญาตทำงานที่รับรองจาก 25 ใน 28 ประเทศของสมาชิกสหภาพยุโรปได้ ค่าจ้างขั้นต่ำในเยอรมนีถูกกำหนดในแต่ละปี ณ เดือนมกราคม 2020 อยู่ที่ 9.35 ยูโร ต่อชั่วโมง (ประมาณ 345.95 บาท) ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่อันดับ 5 ของประเทศในสหภาพยุโรป และรายได้เฉลี่ยต่อเดือนในเยอรมนีอยู่ที่ 4,021 ยูโร (ประมาณ 148,777 บาท) แต่จะแตกต่างกันไปตามภาคภูมิภาค และสายงานด้วย
จบกันไปแล้วค่ะ สำหรับข้อมูลที่คีนอยากจะชวนมารู้ 9 เรื่อง ก่อนตัดสินใจไปเรียนต่อเยอรมนี สำหรับนักเรียนคนไหนที่กำลังตัดสินใจอยากจะไปเรียนต่อ หรือนักเรียนอยากจะสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถทักมาถามเจ้าหน้าที่ของคีนได้เลย เรามีทีมที่ปรึกษา สามารถให้คำตอบนักเรียนเบื้องต้นได้ทันที ฟรี! ไม่มีค่าบริการเลยค่ะ
📥 ทักแชท inbox มาคุยกับเราได้เลย
📲 แอดไลน์มาที่ @keeneducation
📞 โทรหาเราที่ 082 654 5362
📧 หรือส่งอีเมล์มาที่ hello@keeneducation.co
