- จดหมายแรงจูงใจไม่น่าเชื่อถือ
- เลือกโรงเรียนภาษาไม่ได้คุณภาพ
- ความรู้ภาษาเยอรมันไม่มี มีไม่พอ (หรือไม่ได้สอบ)
- ลงคอร์สเรียนภาษาน้อยกว่าระยะเวลาที่ขอวีซ่า
- มีประวัติการขอวีซ่าไม่ดี อยู่เกิน หรือเคยถูกปฎิเสธ
- เอกสารไม่ครบตามที่ทางสถานทูตกำหนดไว้ในเว็บ
สำหรับการขอวีซ่าไปเรียนภาษาเยอรมันที่เยอรมนี แอดมินต้องบอกก่อนเลยค่ะว่าไม่ง่าย ควรจะต้องให้ระยะเวลาและการเตรียมตัวอย่างดี อยากให้ทุกคนคิดไว้เลยค่ะว่าวีซ่าชนิดนี้ขอยาก(ยากจริง) เอกสารค่อนข้างซับซ้อน และสถานทูตจะค่อนข้างเคร่งเป็นพิเศษอีกด้วย ทุกคนควรจะตื่นตัวและให้เวลากับมัน หาข้อมูล ทำการบ้านดี ๆ ปิดจุดเสี่ยงให้ครบ เพื่อลดความเสี่ยงในการถูกปฎิเสธวีซ่าให้เสียประวัติ เสียเวลา และเสียอารมณ์นะ
1. จดหมายแรงจูงใจไม่น่าเชื่อถือ
อยากให้ทุกคนหาเหตุผลในการไปเรียนภาษาเยอรมันที่เยอรมนีในครั้งนี้ค่ะ ว่าเราต้องการไปเรียนเพราะอะไร ให้คิดไว้เลยว่าทางสถานทูตมีกำแพงสงสัยแน่นอน ว่าทำไมถึงจะต้องไปเรียนภาษาเยอรมันที่เยอรมนี เพราะเรียนที่ไทยก็ได้
หากอยากให้เหตุผลดูน่าเชื่อถือ ควรอธิบายให้สมเหตุสมผล ตอบให้เคลียร์ มี Timeline ที่ชัดเจนให้เห็นไปเลย ลงรายละเอียดและระบุเวลาสำหรับแพลนการไปเรียน เขียนแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่เราต้องการจะไปเรียนจริง ๆ ต้องการจะใช้ภาษาเพื่อต่อยอดในการทำอะไร เช่น จะเรียนต่อปริญญาตรี, โท เรียนสายอาชีพ (Ausbildung) หรือใช้ต่อยอดการทำงานปัจจุบัน หรือในอนาคต เป็นต้น
ส่วนเหตุผลที่มักเสี่ยงโดนปฎิเสธวีซ่าคือการตั้งใจเล่าแต่เรื่องแฟน ครอบครัว หรือญาติที่เยอรมนี มีคนรู้จัก Support ที่เยอรมนี ไม่ใส่ใจจุดประสงค์ของการไปเรียน หรือไม่มีเหตุผลการไปเรียนที่เพียงพอว่าตั้งใจไปเรียนจริง ๆ เพราะอะไร หรือแค่อยากจะไปอยู่ด้วยกันหรือเปล่า ไม่ได้ต้องการอยากจะไปเรียนภาษาจริง ๆ
หลายคนมีคำถามว่าให้ญาติหรือคนรู้จักออกใบเชิญได้ไหม ทำได้ค่ะ แต่มีความยุ่งยากซับซ้อน ต้องไปทำเรื่องจริงจังที่สำนักงานเขต และต้องแสดงถึงความสัมพันธ์ที่ชัดเจน อย่าลืมจุดประสงค์ของการไปเรียน แต่หากจะให้แนะนำ การ Support ตนเอง โดยการเปิดบัญชี Blocked Account นั้น จะช่วยลดข้อกังขาหรือลดความเสี่ยงในการถูกปฎิเสธวีซ่าลงไปได้เยอะเลยค่ะ ซึ่งญาติสามารถช่วย Support เงินฝากตรงนั้นแทนได้
แนะนำการเขียนจดหมายแรงจูงใจ https://keeneducation.co/writing-motivation-letter-visa-germany/
2. เลือกโรงเรียนภาษาไม่ได้คุณภาพ
ทางสถานทูตมีการกำหนดไว้ชัดเจนเลยค่ะว่า “ใบลงทะเบียนเรียนของโรงเรียนภาษา (เวลาเรียนไม่ต่ำกว่า 18 ชั่วโมงต่อสัปดาห์) ทั้งนี้ต้องมีทั้งหมด 24 คาบเรียน และใช้เวลาเรียนเป็นเวลา 45 นาที ต่อคาบ”
นักเรียนควรเช็กและตรวจสอบโรงเรียนภาษาให้ดีว่ามีระยะเวลาเรียนครบตามที่ทางสถานทูตกำหนดไหม เป็นโรงเรียนที่น่าเชื่อถือหรือเปล่า และควรเป็นโรงเรียนภาษาที่สามารถออกเอกสารอธิบายการเรียนได้ ซึ่งไม่ใช่ทุกโรงเรียนที่จะสามารถออกให้ได้นะคะ ควรเช็กข้อมูลให้ดีเลยน้า
3. ความรู้ภาษาเยอรมันไม่มี มีไม่พอ (หรือไม่ได้สอบ)
สถานทูตมีการระบุไว้ค่ะ หนึ่งในหลักฐานการขอวีซ่านี้คือ “หลักฐานแสดงระดับความรู้ภาษาเยอรมัน (เช่น หนังสือรับรองการเข้าชั้นเรียนภาษาจากสถาบันสอนภาษาในประเทศไทย หรือประกาศนียบัตรด้านภาษา)”
คีน เอ็ดดูเคชั่น เราจึงแนะนำให้นักเรียน เรียนภาษาเยอรมันอย่างน้อยระดับ A1 หรือ A1, A2 ที่ไทยก่อนค่ะ และหากอยากให้สตรองมากยิ่งขึ้น ควรมีการสอบวัดระดับด้วยยิ่งดีค่ะ ยิ่งช่วยปิดจุดเสี่ยงการถูกปฎิเสธวีซ่า แสดงให้เห็นถึงความพยายามและความตั้งใจในการไปเรียนภาษาเยอรมันจริง ๆ มีความรู้พื้นฐานมาแล้วนะ
หากมีคนรู้จักวีซ่าผ่านโดยไม่ได้แสดงหลักฐานการเรียนหรือสอบภาษาเยอรมัน (ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้) แต่อยากให้ลองคุยกันในเรื่องของข้อมูลให้ครบถ้วนและเจาะลึกค่ะ เพราะโปรไฟล์ของนักเรียนแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน สถานทูตจึงอาจพิจารณาให้แตกต่างกันไปนะคะ แนะนำว่าอย่าประมาทน้า
4. ลงคอร์สเรียนภาษาน้อยกว่าระยะเวลาที่ขอวีซ่า
การขอวีซ่าเรียนภาษาเยอรมันที่เยอรมนี แบบระยะยาว คือระยะเวลาเรียนต้องมากกว่า 3 เดือนขึ้นไปค่ะ หากลงคอร์สเรียนน้อยเกินไป จะทำให้ดูไม่สมเหตุสมผล เช่น ต้องการไปเรียนภาษาระดับ A2-B2 ซึ่งปกติต้องใช้ระยะเวลาในการเรียน 6-8 เดือน แต่ดันลงคอร์สเรียนจริงไปแค่ 2 เดือน ทางสถานทูตจะเกิดคำถามค่ะ ระหว่างนั้นเวลาที่เหลืออยู่นักเรียนจะทำอะไร
แอดมินแนะนำว่าอยากไปเรียนเท่าไรก็จองคอร์สเรียนไปเท่านั้นเลยค่ะ เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นว่าเราแพลนอยากไปเรียนจริง ๆ จองคอร์สเรียนให้เหมาะสมกับระยะเวลาขอวีซ่า ไม่ต้องกลัวว่าจ่ายเงินจองคอร์สไปแล้วจะไม่ได้คืน
เพราะปกติหากวีซ่าไม่ผ่าน โรงเรียนจะคืนเงินค่าเรียนให้ค่ะ (บางโรงเรียนอาจมีหักค่าธรรมเนียมเล็กน้อย) และที่สำคัญควรต้องเช็กและเลือกโรงเรียนภาษาที่จะคืนเงินค่าเรียนให้เรา หากวีซ่าไม่ผ่าน หรือให้เลื่อนคอร์สเรียนได้ ในกรณีที่เกิดการใช้ระยะเวลารอวีซ่าที่นานขึ้นเกินกำหนดที่แพลนไว้ค่ะ
5. มีประวัติการขอวีซ่าไม่ดี อยู่เกิน หรือเคยถูกปฎิเสธ
แน่นอนค่ะ หากนักเรียนมีประวัติการขอวีซ่าที่ไม่ดี เคยโดนปฎิเสธวีซ่าต่าง ๆ มา หรือทำผิดกฎหมาย เช่น การอยู่เกินกำหนด ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้อาจเสี่ยงโดนปฎิเสธวีซ่าได้นะคะ
เพราะฉนั้น แนะนำให้ทุกคนเตรียมตัวให้ดี ปิดจุดเสี่ยงให้ครบ เพื่อให้วีซ่าเราผ่านในครั้งแรกครั้งเดียวจะดีกว่าค่ะ และไม่ควรทำผิดกฎหมายใด อันจะก่อให้เกิดประวัติเสียติดตัว เพราะจะไม่เป็นผลดีเลยค่ะ
6. เอกสารไม่ครบตามที่ทางสถานทูตกำหนดไว้ในเว็บ
เว็บไซต์สถานทูตมีคำแนะนำและระบุเอกสารหลักฐานชัดเจนในการใช้ประกอบยื่นขอวีซ่า ว่าต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง นักเรียนสามารถเช็คข้อมูลได้ เอกสารค่อนข้างเยอะค่ะ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการถูกปฎิเสธวีซ่า อย่าลืมให้ความสำคัญและระยะเวลาในการเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนกันด้วยนะคะ
เช็กรายละเอียด: https://bangkok.diplo.de/th-th/service/visa-einreise/langzeit-sprachkurs-2141734
คีนสามารถให้คำปรึกษา ดูแลช่วยเหลือ วางแผนการเรียน ทำการสมัคร ประสานงาน และเตรียมเอกสารวีซ่า ให้นักเรียนได้ฟรี!! 𝐅𝐫𝐞𝐞!! (ไม่มีค่าบริการเอเจนซี่) ทีมงานของเรายินดี และก็พร้อมให้บริการค่ะ ทักมาเลย!
เรียนต่อเยอรมนีกับ https://keeneducation.co/
📥 ทักแชท inbox มาคุยกับเราได้เลย
📲 แอดไลน์มาที่ @keeneducation
📞 โทรหาเราที่ 082 654 5362
📧 หรือส่งอีเมลมาที่ hello@keeneducation.co