คุณปรางค์ เรียนปริญญาโท สาขา Master of Science Program in Management มหาวิทยาลัย HHL Leipzig Graduate School of Management เมือง Leipzig ประเทศเยอรมนี
คุณปรางค์เรียนจบจากคณะเศรษฐศาสตร์ ภาคอินเตอร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หลังจากจบมาก็ทำงานทางด้านการพัฒนานโยบายสาธารณะ (Public policy) เป็นเวลา 2 ปี หลังจากนั้นอยากที่จะเปลี่ยนสายงาน เลยตั้งใจไว้ว่าอยากจะเรียนต่อด้าน Business Management
คุณปรางค์หาข้อมูลแล้วพบว่าเยอรมนี เป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเรียนการสอนด้านนี้ดีที่สุดในโลก โดยมีมหาวิทยาลัยและโรงเรียนธุรกิจที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก เช่น TUM School of Management, Mannheim Business School, และ HHL Leipzig Graduate School of Management ซึ่งได้รับการจัดอันดับในระดับสูงและมีโปรแกรมการสอนที่มีคุณภาพ (ได้ Accreditation จาก AACSB International)
แต่เหตุผลหลักที่ทำให้คุณปรางค์ตั้งใจเลือกเรียนต่อประเทศเยอรมนีเป็นเพราะเรื่องวีซ่า ทุน และค่าเรียนค่ะ ประเทศเยอรมนี นักศึกษาต่างชาติ หากเรียนจบแล้วสามารถขอวีซ่าอยู่ต่อเพื่อหางานทำได้สูงสุด 18 เดือน
และหากหางานทำได้ ก็สามารถทำงานต่อได้ รวมถึงมีทุนเยอะมากในการสนับสนุนนักเรียน ทำให้ลดค่าเรียนลงได้เยอะเลยค่ะ รวมถึงมีค่าครองชีพที่ไม่แพงจนเกินไป และยังมีความปลอดภัยกว่าประเทศยุโรปอื่น ๆ ด้วย
ชอบส่วนไหนของเยอรมนี เมืองที่อยู่เป็นยังไงบ้าง
เมืองที่เราอยู่คือเมือง Leipzig ที่ตั้งอยู่ในรัฐซัคเซิน (Saxony) ถ้าดูจากแผนที่จะอยู่ทางทิศตะวันออกของประเทศเยอรมนี ซึ่งทำให้ไม่ค่อยมีความหลากหลายมากเมื่อเทียบกับเมืองที่อยู่ทางทิศตะวันตกค่ะ เลยทำให้คนที่พูดภาษาอังกฤษหาได้ค่อนข้างยากในเมืองนี้ด้วย
ดังนั้นหากมาที่นี่ เรียนภาษาเยอรมันมาก่อนจะมีประโยชน์มาก ๆ เลยค่ะ แต่ถ้าหากไม่เคยเรียนก็ไม่เป็นไร เพราะเราก็เป็นนักเรียนปริญญาโทที่เริ่มต้นจากพูดภาษาเยอรมันไม่ได้เลย จนไปเรียนภาษาเยอรมันที่ HHL แทน และได้ฝึกใช้ในชีวิตประจำวันตอนอยู่ที่นี่จนตอนนี้เริ่มใช้ภาษาเยอรมันได้บ้างแล้วค่ะ ดังนั้นถ้าหากอยากที่จะฝึกภาษา มาเรียนที่นี่ ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีเลย
Leipzig เป็นที่รู้จักในฐานะเมืองแห่งดนตรีคลาสสิก โดยเฉพาะ Johann Sebastian Bach ที่เคยทำงานที่นี่ ทำให้มีอนุสรณ์ตั้งอยู่ข้าง ๆ St. Thomas Church และตั้งอยู่กลางเมือง ทำให้สามารถแวะไปดูด้านในของโบสถ์และอนุสรณ์ได้เรื่อย ๆ เลยค่ะ
และเพราะ Leipzig อยู่ทางเหนือ อากาศเลยเย็นสบาย ไม่ร้อนทรมานในตอนหน้าร้อน และช่วงฤดูหนาวอุณหภูมิต่ำสุดคือ -10 องศาเซลเซียส เหมาะสำหรับคนชอบอากาศเย็น ๆ ไม่ร้อนจนเกินไปเลยค่ะ
คนใน Leipzig มักจะเดินทางผ่าน Tram (รถราง) ซึ่งจะเชื่อมไปทั่วทุกพื้นที่ รวมถึง U-bahn และ S-bahn ซึ่งหากเราเป็นนักเรียน-นักศึกษา เราก็จะได้ Deutsch Bahn ticket จากมหาวิทยาลัย ทำให้เดินทางได้ทั่วทั้งเยอรมนีและใช้ได้หมดทุกอย่างค่ะ ทั้งรถเมล์ รถไฟ และรถราง
โดยเยอรมนีจะใช้ระบบความเชื่อใจเป็นหลัก ก็คือมีพนักงานเดินตรวจตั๋วเป็นครั้งคราวบนรถ ทำให้ปกติแล้วไม่มีการตรวจบัตรก่อนขึ้นรถ เว้นแต่จะเจอพนักงานตรวจตั๋ว ซึ่งถ้าเจอก็ต้องยื่นบัตรยืนยันตัวตนและตั๋วรถให้พนักงานดูค่ะ
ส่วนตัวเราเลือกเมืองนี้เพราะเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพไม่แพงเมื่อเทียบกับเมืองใหญ่ เนื่องจากเป็นเมืองเล็ก Registration office สำหรับการทำเอกสารคนเข้าเมืองก็จะเร็วกว่าและไม่ต้องรอนานด้วย
และการหาหอพักนักเรียนก็หาได้ง่ายและราคาถูกกว่าในเมืองอื่นมาก โดยเราเลือกหอพักที่ห่างจากตัวเมือง ประมาณ 20 นาที (จากการนั่งรถราง) โดยรวมค่าน้ำ-ค่าไฟแล้ว ราคาหอพักต่อเดือนไม่เกิน 250 ยูโรค่ะ
สำหรับเรา Leipzig ถือเป็นเมืองที่ปลอดภัยมากค่ะ เพราะเป็นเมืองนักศึกษา รวมถึงมีการรักษาความปลอดภัยทั่วทั้งเมือง ทำให้อัตราการเกิดอาชญากรรมต่ำ แต่เพราะว่ายังคงเป็นเมืองในยุโรป ทำให้มีคนไร้บ้านนั่งอยู่บริเวณสถานีรถไฟกลางบ้าง แต่ก็ไม่เป็นอันตรายอะไร
เพียงแต่เนื่องจากเป็นเมืองที่ค่อนข้างไม่หลากหลายทางเชื้อชาติ ทำให้เราที่เป็นผู้หญิงเอเชียรู้สึกได้ถึงความแปลกแยกบ้าง และที่เจอบ่อยหน่อยคือจะมีคุณลุงมีอายุเดินมาพยายามคุยกับเรา เพื่อขอให้เราไปกับเขาหรือมีการถามว่า How much บ้าง (โดยรวมหนึ่งปี เราเจอประมาณ 7-8 ครั้งค่ะ)
โดยปกติแล้วถ้าปฏิเสธเขาก็จะไม่ทำอะไร แต่ถ้าอันตรายที่สุดที่เราเคยเจอคือเขาเดินตามเราขึ้นรถรางจนเกือบถึงที่พักค่ะ ถึงตอนนั้นถ้าหากเจอให้ตะโกนดัง ๆ หรือขอให้คนที่อยู่รอบข้างช่วย ถึงตอนนั้นเขาก็จะไปเองค่ะ
สาขา และมหาวิทยาลัยที่เรียนอยู่เป็นยังไงบ้างคะ
HHL Leipzig Graduate School of Management เป็นหนึ่งใน Business School ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ได้รับการรับรองจาก AACSB และ ACQUIN ซึ่งเป็นมาตรฐานการรับรองที่สำคัญ และถือเป็น Top 5 ในประเทศเยอรมนี โดยเราเรียนหลักสูตร Master in Management, M.Sc.(Full time) ซึ่งใช้เวลาเรียน 2 ปี (ตอนนี้เพิ่งจบไป 1 ปีค่ะ)
โดยที่เราเลือกที่นี่เพราะมีมาตรฐานการเรียนที่ดีมาก และมีเครือข่ายศิษย์เก่าที่เหนียวแน่นมากค่ะ ซึ่ง HHL มี HHL Alumni association และมีสมาชิกกระจัดกระจายไปทั่วโลก รวมถึงในไทยด้วยค่ะ โดยถ้าเราจะหางานในเยอรมนี ถ้าเรามีรุ่นพี่อยู่ในที่ทำงานนั้น ๆ ก็อาจจะได้รับการ Transfer เข้าไปทำงานได้เลย (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของบริษัทด้วยนะคะ)
เทอมแรกของเราอยู่ในช่วง Summer ก็คือช่วงกลาง August ค่ะ ถือเป็นฤดูร้อน ทำให้ช่วงนั้นทางโรงเรียนก็จะจัด Welcome week ซึ่งจะมีกิจกรรมเพื่อให้เราสนิทกับเพื่อนในห้องเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์เต็ม ๆ ค่ะ
จะมีกิจกรรม เช่น สุ่มจับกลุ่มให้เรากับเพื่อนไปเดินหาสมบัติในเมือง พายเรือคายัค รวมถึงกิจกรรมเล่นเกมในร่มและสัมมนาเพื่อเตรียมตัวสำหรับการเรียนอาทิตย์ถัดไป ทำให้เราได้รู้จักกับเพื่อนเยอะมากในระหว่างนั้น ทั้งในโปรแกรม Msc ของเราเองและ MBA กับ Exchange Students ที่มาร่วมด้วย
Msc จะต่างจาก MBA ค่อนข้างมากค่ะ MBA จะเป็นโปรแกรม 1 ปี และมีความหลากหลายของนักเรียนมาก ซึ่งปีที่เราเรียน ไม่มีนักเรียนชาวเยอรมันเรียนโปรแกรมนี้เลย เป็นนักเรียนต่างชาติทั้งหมด ส่วนใหญ่จะเป็นชาวอินเดีย และมีคนเอเชียกับคนจากอเมริกาบ้าง อายุเฉลี่ยของคนในโปรแกรม MBA ก็จะเยอะกว่า (ส่วนใหญ่มีประสบการณ์ทำงานมาแล้ว 5-6 ปี)
ในขณะที่ Msc จะเป็นโปรแกรมที่มีคนเยอรมันเรียนประมาณ 60% ของคลาสเลยค่ะ รองลงมาคือคนเอเชียประมาณ 20% ของคลาส 10% จากยุโรปประเทศรอบข้าง และอีก 10% เป็นคนเอเชียค่ะ อายุเฉลี่ยก็จะอยู่ที่ 21-23 ปี โดยทั้งคลาสจะมีประมาณ 50 คน เป็นผู้ชายเกือบทั้งหมด มีผู้หญิงอยู่ประมาณ 10 คน และเรียนเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด
HHL จะเข้มงวดกับโปรแกรม Msc มากกว่า MBA มาก หลักสูตรการเรียนจะยากกว่าและ Hard work กว่ามาก ในวันปฐมนิเทศ อาจารย์ที่เป็นหัวหน้าหลักสูตรบอกกับนักเรียนว่า ถ้าหากพวกเรากลัวโลกภายนอกว่าการทำงานจะยากลำบาก ไม่ต้องห่วงเพราะทางเราเตรียมอะไรที่ยากและโหดหินกว่าโลกภายนอกมาให้แล้ว 55555555+
ซึ่งก็ลำบากจริง ๆ ค่ะในช่วงแรก เราต้องฝึกพูดเป็นภาษาอังกฤษให้คล่อง ฟังสำเนียงที่หลากหลายให้ออก เข้าใจงานที่ถูก Assign มา และเรียนรู้วัฒนธรรมการทำงานของเพื่อนแต่ละคนด้วย วิชาแรกที่เราได้เรียน อาจารย์จะให้เราทำ Overnight assignment ก็คืองานที่จะให้เราตอนช่วงเย็น ให้เวลาเราทำทั้งคืนพร้อมกับเพื่อนในห้องที่สุ่มมาให้ เพื่อส่งและพรีเซนท์ตอนเช้าวันถัดมาค่ะ ถือเป็นเหมือนบททดสอบที่ท้าทายสำหรับนักเรียนต่างชาติเลย
อาจารย์ที่ HHL ส่วนมากเป็นอาจารย์คนเยอรมันค่ะ ซึ่งก็จะมีการสอนตามสไตล์เยอรมันจริง ๆ ก็คือเป็นคนเข้มงวด ห้ามมาสายและต้องตรงต่อเวลาตามหลักนาที ทุ่มเทให้กับการสอนมาก และข้อดีมาก ๆ คือการเรียนที่นี่ Practical มากค่ะ
อาจารย์ทุกคนที่นี่สอนดีมากทำให้เราเรียนรู้และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง ๆ รู้สึกได้ว่าเราจะไม่ได้ใช้สิ่งที่เรียนแค่ในห้องเรียนอย่างแน่นอน เป็นการเรียนที่หนัก แต่คุ้มค่ามาก ๆ ค่ะ
การจะเข้ามาเรียนที่นี่ได้ควรมีพื้นฐานการเรียนด้าน Business มาบ้าง เพราะการเรียนที่นี่จะเริ่มต้นเนื้อหาตั้งแต่ระดับ Intermediate ไปถึง Advance ขึ้นไปค่ะ แต่ถ้าหากไม่มีพื้นฐานมาก่อน ทางโรงเรียนจะมีคลิปสอนพื้นฐานอยู่ในเว็บไซต์เพื่อให้นักเรียนศึกษาก่อนเริ่มคอร์ส เราสามารถเริ่มเรียนจากคลิปนั้นเพื่อเตรียมตัวเรียนในคอร์สต่อไปได้ค่ะ
โดยรวมแล้ว การเรียนที่นี่จะ Interactive มาก มีการ Discuss พูดคุยกันในห้องตลอดเวลา ทำให้เราที่เป็นนักเรียนเอเชียได้ฝึกพูดและเสนอความคิดเห็นมากขึ้น ส่วนตัวแล้วคิดว่าเรียนไม่เร็วไปค่ะ ส่วนที่ยากคือการฝึกพูดฝึกเสนอความคิดเห็น ซึ่งเราไม่ค่อยได้ทำมาก่อนจากวัฒนธรรมการเรียนของเรา
ถ้าหากคาดหวังด้านคุณภาพการเรียน ก็แนะนำ HHL Leipzig เลยค่ะ จากที่เราพูดคุยกับศิษย์เก่าหลาย ๆ คน คนเยอรมันจะรู้ดีกว่านักเรียนที่จบมาจากที่นี่จะได้รับการฝึกสกิลในการทำ Powerpoint Presentation การพรีเซนท์งาน และการเรียนการสอนด้าน Management, Finance และ Entrepreneurship มาอย่างเข้มข้นมาก
ทำให้ได้เปรียบในการหางานมากกว่าสถาบันอื่น รวมถึงมีเครือข่ายศิษย์เก่าที่ดีด้วย แต่การเรียนการสอนที่หนักก็จะแลกมากับวันหยุดและเวลาว่าง ดังนั้นหากมาเรียนต่อเพราะอยากหาเวลาไปเที่ยวยุโรป อาจจะลองพิจารณาที่อื่นที่ไม่ใช่ที่นี่ค่ะ 555555
ตัวโปรแกรม Master in Management ที่เราเรียนจะแบ่งสายการเรียนออกเป็น General Management กับ Finance ค่ะ ขึ้นอยู่กับนักเรียนว่าจะเลือกสายไหน ทำให้คอร์สเรียนของทั้งสองสายต่างกันและความหนักของทั้งสองสายก็จะต่างกันด้วย
โดยหลัก ๆ แล้ว โปรแกรมนี้จะแบ่งเป็น 3 ช่วงค่ะ คือ เรียน 4 เทอม แลกเปลี่ยน 1 เทอม และฝึกงาน 1 เทอม ในปีแรกจะเป็นการเรียน 3 เทอม และปีถัดไปจะเป็นแลกเปลี่ยน ฝึกงาน และกลับมาเรียนอีกครั้งเป็นเทอมสุดท้ายค่ะ
โดยการแลกเปลี่ยนก็ถือเป็นข้อดีมาก เพราะ HHL มีพาร์ทเนอร์อยู่ทั่วโลก โดยเฉพาะในฝรั่งเศสที่มี Business School ลำดับต้น ๆ ของโลกอยู่เยอะมาก
ทำให้เราได้มีโอกาสได้ไปแลกเปลี่ยนและได้ประสบการณ์ของโรงเรียนที่ว่าค่ะ เช่นเราที่ตอนนี้กำลังแลกเปลี่ยนที่ EM Lyon business school ซึ่งตาม Financial times 2023 ถือเป็นอันดับที่ 7 ของโลกค่ะ
โดยรวมแล้วคิดว่า HHL ช่วยสนับสนุนในการมีประสบการณ์และหางานที่เยอรมนีมากค่ะ นอกจากจะมีคอร์สเรียนภาษาเยอรมันแล้ว ทางโรงเรียนยังมีคอร์ส Student consulting project ซึ่งเป็นคอร์สที่ HHL ร่วมมือกับบริษัทด้านนอก เพื่อหาโครงการมาให้นักเรียนได้ฝึกทำงานด้วยค่ะ
โดยส่วนมากบริษัทที่มาร่วมก็จะเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียง อย่างของเราก็ได้บริษัท PwC ซึ่งช่วยในการอัพโปรไฟล์ในการหา Internship ได้มาก และการได้ฝึกงานก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากในการหางานที่ประเทศเยอรมนีค่ะ
HHL Leipzig จะอยู่ติดกับสถานีรถราง และรอบ ๆ ก็มีร้านอาหารและร้านกาแฟที่เปิดจนถึงเวลาดึก ทำให้สะดวกกับนักเรียนในโรงเรียนมากค่ะ ทางโรงเรียนยังมีห้องส่วนตัวสำหรับอ่านหนังสือ ห้องสมุดที่เปิด 24 ชม.
มีตั๋ว Deutschland ticket และบริการ IT ในการเข้าถึงข้อมูลในเว็บไซต์ต่าง ๆ ได้ฟรี เช่น Statista และการเข้าถึงโปรแกรมในการทำงาน เช่น Efficient elements, Think-cell และ Vizzlo เป็นต้นค่ะ ถือเป็นมหาลัยที่มีการสนับสนุนนักศึกษาที่ดีมากที่หนึ่งเลย
ทีมงานคีนบริการเป็นยังไง ประทับใจอะไรไหมคะ
หลังจากที่เราตัดสินใจได้แล้วก็เริ่มหาข้อมูล และได้เจอ Keen Education ค่ะ ต้องบอกว่าก่อนหน้านี้เราหาเอเจนซี่มาหลายที่มากและเคยใช้งานไปบ้าง (ขอไม่ระบุชื่อนะคะ) แต่ไม่ค่อยมีความก้าวหน้าเท่าไรและมีค่าบริการที่แพงมาก
จริง ๆ เราไม่ได้มีปัญหาที่ค่าบริการ แต่กังวลถึงความน่าเชื่อถือค่ะ สุดท้ายเลยไม่มีที่ไหนที่ผ่านเลย จนกระทั่งมาเจอ Keen ที่ทำให้รู้สึกว่าที่นี่มีความน่าเชื่อถือและมี Progress ในการสมัครเรียนต่อ รวมถึงช่วยแนะนำตั้งแต่จุดเริ่มต้นไปจนจบ
ก็คือตั้งแต่ขั้นตอนในการยื่นเอกสารสมัครมหาวิทยาลัย ขั้นตอนการสอบเข้ารวมถึงทางเลือกอื่นในการยื่นคะแนนสอบเข้า ขั้นตอนการสมัครทุน และขั้นตอนในการยื่นวีซ่าเยอรมันค่ะ ซึ่งเป็นการช่วยเหลือมาก ๆ
เพราะถ้าหากทำเองก็ต้องทำความเข้าใจกับขั้นตอนการสมัครและยื่นวีซ่าที่ซับซ้อนมากและอาจจะเป็นภาษาเยอรมันทั้งหมดด้วย รวมถึงอาจจะติดต่อกับทางมหาวิทยาลัยได้ยากเพราะไม่มีเครือข่ายการติดต่อโดยตรงเหมือน Keen ค่ะ
ตอนที่เราสมัครเพื่อเข้า HHL Leipzig Graduate School of Management ก็ได้รับข้อมูลจาก Keen ว่าเราต้องสอบ GMAT หรือ HHL entry test ในการสอบเข้าค่ะ รวมถึงต้องมีผลคะแนน Ielts ตั้งแต่ 7 ขึ้นไป
และการยื่นสอบก็เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นรอบ Early bird และหากยื่นในรอบนี้จะได้รับส่วนลดค่าเทอม เนื่องจากกยื่นเป็นรอบแรกด้วย ดังนั้นถ้าหากใครอยากที่จะยื่นเรียนต่อปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยไหน เช็คให้ดีว่ามีรอบ Early bird ด้วยรึเปล่าจะดีมากค่ะ
นอกจากนี้ เรายังตั้งใจจะยื่นสมัครทุนเพื่อเป็นส่วนลดค่าเรียนด้วย ซึ่งทางคีนก็ให้คำแนะนำว่าเราควรยื่น HHL Scholarship for Women in Business ค่ะ รวมถึงช่วยติดต่อและจัดเตรียมเอกสารให้
หลังจากที่เราสัมภาษณ์จนเสร็จเรียบร้อย สุดท้ายเราได้รับทุนนี้ในที่สุดค่ะ ต้องขอขอบคุณคีนที่ช่วยแนะนำและช่วยจัดเตรียมเอกสารสำหรับที่เราจะต้องใช้ในการสมัครทุนนี้ด้วยนะคะ
และในขั้นตอนสุดท้ายคือการยื่นวีซ่าค่ะ ทางคีนช่วยจัดเตรียมเอกสารให้เราทั้งหมดเช่นกัน และขั้นตอนการขอวีซ่าก็ผ่านไปด้วยดี เพียงแต่สุดท้ายตอนที่ Passport ต้องส่งมาถึงเรา น่าจะมีข้อผิดพลาดทางไปรษณีย์ทำให้ Passport เราหายตอนขั้นตอนขนส่งค่ะ ทำให้ต้องทำใหม่ตั้งแต่ต้น 555555 TT
แต่พอเกิดปัญหาและแจ้งทางคีนแล้ว สุดท้ายทางคีนก็ช่วยเราจนได้รับพาสปอร์ตและวีซ่าทันเวลาค่ะ ถือว่าเป็นการฟาดเคราะห์ก่อนมาเยอรมนีจริง ๆ และต้องขอขอบคุณคีนอีกครั้งสำหรับการช่วยเหลือทุกขั้นตอนที่ผ่านมาและช่วยจัดการเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้นด้วยค่ะ
ถ้าหากคนที่อ่านอยู่มีคำถามอะไรเพิ่มเติม สามารถติดต่อผ่านทาง Keen มาถามเราได้เลยนะคะ จะช่วยสนับสนุนเท่าที่ได้ค่ะ 😊😊
ทีมงานคีนต้องขอบคุณมาก ๆ เลยนะคะที่ไว้ใจเลือกใช้บริการกับเรา และขอบคุณคุณปรางค์มาก ๆ เลยค่ะสำหรับการแชร์ประสบการณ์ การเรียน และการใช้ชีวิตต่าง ๆ ในเยอรมนี ขอบคุณมาก ๆ นะคะ ❤️❤️
แนะนำมหาวิทยาลัย HHL Leipzig Graduate School of Management
HHL Leipzig Graduate School of Management เป็นมหาวิทยาลัยธุรกิจเอกชนแห่งแรกของเยอรมนีที่ได้รับการรับรองจาก AACSB โดย HHL ติดอันดับหนึ่งใน 5 อันดับโรงเรียนธุรกิจชั้นนำในเยอรมนี เป็นอีกหนึ่งในมหาวิทยาลัย Top ด้าน Management ของเยอรมนี
ก่อตั้งขึ้นในปี 1898 (และได้ก่อตั้งขึ้นใหม่ปี 1992) เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนที่ได้รับการรับรองจากรัฐบาลและมีสถานะเป็นมหาวิทยาลัย สามารถให้ปริญญาดุษฎีบัณฑิตและวุฒิการศึกษาได้ เปิดสอนในหลักสูตรปริญญาโท และ MBA เป็นหลักสูตรนานาชาติ ภาคอินเตอร์
และยังเป็นพาร์ทเนอร์กับมหาวิทยาลัยชั้นนำมากกว่า 140 แห่งทั่วโลก ปัจจุบันมีนักเรียน 800 คน (9/2023) กว่า 56 สัญชาติในวิทยาเขต ผู้สำเร็จการศึกษามากกว่า 3,500 คน (10/2022) และศิษย์เก่าอีกจำนวนมาก
มีการประชุมระดับภูมิภาคมากกว่า 50 ครั้งทั่วโลกต่อปี มีสตาร์ทอัพที่ก่อตั้งโดยศิษย์เก่า HHL 530 แห่ง และได้สร้างงานมาแล้วมากกว่า 50,000 ตำแหน่ง
หรืออ่านต่อได้ที่: https://keeneducation.co/universities-in-germany-hhl-leipzig/
คีนสามารถให้คำปรึกษา ดูแลช่วยเหลือ วางแผนการเรียน ทำการสมัคร ประสานงาน และเตรียมเอกสารวีซ่า ให้นักเรียนได้ฟรี!! 𝐅𝐫𝐞𝐞!! (ไม่มีค่าบริการเอเจนซี่) ทีมงานของเรายินดี และก็พร้อมให้บริการค่ะ 😊😊
เรียนต่อเยอรมนีกับเรา https://keeneducation.co/
📥 ทักแชท inbox มาคุยกับเราได้เลย
📲 แอดไลน์มาที่ @keeneducation
📞 โทรหาเราที่ 082 654 5362
📧 หรือส่งอีเมลมาที่ hello@keeneducation.co