ก่อนเดินทาง
- ค่าธรรมเนียมการขอวีซ่าประมาณ 4,000 – 5,000 บาท
- ค่าตั๋วเครื่องบิน ขึ้นอยู่กับสายการบินและโปรโมชั่นของสายการบินนั้นๆ (แต่ควรจองตั๋วเครื่องบินหลังวีซ่าผ่าน เพื่อลดความเลี่ยงในการ Cancel ตั๋วเครื่องบิน)
- Blocked Account สำหรับนักเรียนปริญญาสถานทูตกำหนดไว้ 934 ยูโร ต่อเดือน ตามหน้าเว็บไซต์ของสถานทูต (934×12 = 11,208 ยูโร) ประมาณ 416,064 บาท (ขึ้นอยู่กับค่าเงินวันที่โอนด้วยค่ะ)
ค่าเรียน
- มหาวิทยาลัยของรัฐบาล ปริญญาโทเรียนหลักสูตร 2 ปี จะไม่มีค่าเทอมค่ะ เรียนฟรี แต่จะมีเสียแค่ค่าบำรุงการศึกษาและค่าอุปกรณ์การเรียนต่างๆ เทอมละประมาณ 20,000 – 30,000 บาท (ยกเว้นในรัฐ baden-württemberg)
- มหาวิทยาลัยเอกชน ปริญญาโทเรียนหลักสูตร 1 ปี, 1.5 ปี, หรือ 2 ปี จะมีเสียค่าเทอมประมาณปีละ 350,000 – 400,000 บาทค่ะ
ค่าใช้จ่ายกินอยู่
- ค่าที่พัก ประมาณ 15,000 – 30,000 บาทต่อเดือน แล้วแต่ประเภทของห้อง ห้องสตูดิโอ ห้องเดี่ยว ห้องแชร์ และเมืองที่นักเรียนอาศัยอยู่ค่ะ ส่วนใหญ่ก็จะรวมค่าอินเตอร์เน็ตและค่าน้ำค่าไฟแล้วนะคะ
- ค่าอาหาร รวมค่าเดินทาง ประมาณ 15,000 – 20,000 บาท อันนี้จะเน้นเป็นการทำอาหารทานเอง เช่น การซื้อวัตถุดิบ ข้าว เนื้อ นม ไข่ มาไว้ทำทานเป็นอาทิตย์ (จะช่วยให้ประหยัดขึ้น) และการเดินทางในเมืองที่นักเรียนอาศัยอยู่ค่ะ
- ค่าประกันสุขภาพ นักศึกษาของรัฐบาล ราคาประมาณ 4,000 บาทต่อเดือน ส่วนถ้าเป็นของเอกชนจะสามารถเลือกระดับความคุ้มครองได้ ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 1,000 บาทต่อเดือนค่ะ
- ค่าโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ตมือถือ แพคเกจแบบเติมเงิน เริ่มต้นที่ประมาณ 400 บาท แต่ก็แล้วแต่จะเติมเงินเพิ่มเติมเองด้วยนะคะ
- ค่าสันทนาการและจิปาถะ อันนี้ก็จะขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของแต่ละคนเลยค่ะ เช่น การท่องเที่ยว การออกไปทานอาหารนอกบ้าน หรือออกไปแฮงเอาท์กับเพื่อนๆ
สรุปแล้วค่าใช้จ่ายส่วนตัว ค่ากินอยู่ต่อเดือนจะอยู่ที่ประมาณ 30,000 – 35,000 บาทต่อเดือนค่ะ แต่อาจจะยกเว้นเมือง Munich นะคะ ที่ค่าครองชีพจะค่อนข้างสูงกว่าเมืองอื่นๆ จะประมาณ 40,000 – 45,000 บาท เนื่องจากที่พักมีราคาแพงและหายากค่ะ แต่อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นเลยนะคะ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงก็จะขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของนักศึกษาแต่ละคนด้วยค่ะ ซึ่งเราเพียงช่วยประมาณการค่าใช่จ่ายคร่าวๆ ให้เท่านั้น
สรุป
มหาวิทยาลัยรัฐของเยอรมัน หลักสูตร 2 ปี เรียนฟรีตลอดหลักสูตรค่ะ มีเสียค่าบำรุงการศึกษาประมาณปีละ 20,000 – 30,000 บาทต่อปี แต่ส่วนใหญ่จะเป็นสาย Consecutive master คือต่อยอดความรู้จากสายที่เรียนมา ซึ่งถ้านักศึกษาจบมาไม่ตรงสายจะไม่ค่อยรับค่ะ รวมถึงด้วยความที่เรียนฟรี การแข่งขันก็จะสูงมาก ส่วนใหญ่จะเน้นเกรดตอนเรียนจบป.ตรี มากๆ คีนจึงจะแนะนำว่าเกรดอาจจะต้องมากกว่า 3.00 ขึ้นไป ถึงจะพอมีโอกาสค่ะ ส่วนค่าใช้จ่ายส่วนตัว ค่ากินอยู่ระหว่างเรียนนั้น ก็จะตกปีละประมาณ 400,000 บาท
เรียนมหาวิทยาลัยรัฐ หากรวมค่าบำรุงการศึกษาและค่ากินอยู่ต่อปีแล้ว ก็จะตกอยู่โดยประมาณปีละ 430,000 บาทค่ะ
ส่วนมหาวิทยาลัยเอกชน จะเป็นหลักสูตร 1 ปี, 1.5 ปี, หรือ 2 ปี ขึ้นอยู่กับแต่ละสาขาที่เราเลือกเรียนนะคะ มหาวิทยาลัยเอกชนจะรับนักศึกษาข้ามสายง่ายกว่ามหาวิทยาลัยรัฐค่ะ เน้นดูแรงจูงใจของนักศึกษาเป็นหลัก และไม่ค่อยดูเกรด ค่าเทอมจะอยู่ที่ประมาณปีละ 400,000 บาท ส่วนค่าใช้จ่ายส่วนตัว ค่ากินอยู่ระหว่างเรียน ก็จะตกปีละประมาณปี 400,000 บาทเช่นกัน
เรียนมหาวิทยาลัยเอกชน หากรวมค่าเรียนและค่ากินอยู่ต่อปีแล้วก็จะตกอยู่ที่ประมาณปีละ 800,000 บาทค่ะ
ซึ่งสามารถทำงานระหว่างเรียนได้ นักศึกษามีสิทธิ์ทำงานแบบ Full time หรือ Part time ได้มากถึง 120 วันต่อปี ซึ่งสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเรียนต่อได้เยอะทีเดียวเลยค่ะ
การทำงานพาร์ทไทม์ของเยอรมัน
- การทำงานเต็มวัน (Full Day) เท่ากับ 8 ชั่วโมงต่อวัน
- การทำงานครึ่งวัน (Half Day) เท่ากับ 4 ชั่วโมงต่อวัน
ค่าแรงประมาณ 9 – 15 ยูโรต่อชั่วโมง แต่ก็ขึ้นอยู่กับประเภทของงานและระดับความรู้ภาษาเยอรมันด้วยค่ะ
หวังว่าข้อมูลของเราจะเป็นประโยชน์ให้กับนักศึกษาที่กำลังสนใจไปเรียนต่อป.โท ที่ประเทศเยอรมนีนะคะ
เรียนต่อเยอรมนีกับ Keen Education
📥 ทักแชท inbox มาคุยกับเราได้เลย
📲 แอดไลน์มาที่ @keeneducation
📞 โทรหาเราที่ 082 654 5362
📧 หรือส่งอีเมล์มาที่ hello@keeneducation.co